ประวัติความเป็นมา ผ้า ไหมมัดหมี่อำเภอบ้านเขว้า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุ ควบคู่กับชุมชนชาวอำเภอบ้านเขว้ามาตั้งแต่อดีตกาลซึ่งเริ่มจากการทอผ้าใช้ใน ชีวิตประจำวันจากพ่อแม่สู่ลูก จากลูกสู่หลาน เป็นการสืบทอดภูมิปัญญามาจากบรรพบุรุษ ที่พัฒนามาจนถึงปัจจุบัน เน้นความปราณีต ละเอียดอ่อน ลวดลายบนผืนผ้าได้แนวคิดจากวิถีในการดดำรงชีวิต ที่อาศัยธรรมชาติที่อยู่รอบข้างมาเป็นแบบในการคิดลวดลาย เช่น สายน้ำไหล ต้นไม้ ซึ่งผ้าไหมมัดหมี่เป็นผ้าที่มีคุณค่า ในอดีตกาลนิยมใส่ไปในงานพิธีที่เป็นศิริมงคล ผ้าไหมจึงเป็นศิริมงคลแก่ผู้สวมใส่
กระบวนการขั้นตอนการผลิต
1. นำเส้นไหมมาฟอก
2. มัดลวดลายตามแบบ
3. นำเส้นไหมที่มัดลวดลายมาย้อมสีและโอบสี
4. นำไปทอด้วยฟืม (ทอมือ)
2. จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ลวดลายประยุกต์ มีความปราณีตทันสมัย สีสดใสสวยงาม
3. ปริมาณการผลิต 120 เมตรต่อเดือน
4. ราคา เมตรละ 1,200 บาท
5. สถานที่จำหน่าย
- 456 หมู่ที่ 2 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ 0-4483-9560, 0-1306-6217
- 456 หมู่ที่ 2 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ 0-4483-9560,0-1306-6217
สนใจสั่งซื้อ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอบ้านเขว้า โทร 0-4489-1106
ประวัติความเป็นมา บ้าน โนนม่วง เป็นหมู่บ้านที่มีมะม่วงแก้ว มากเหมือนชื่อหมู่บ้าน บรรพบุรุษในสมัยก่อนจึงทำมะม่วงแช่อิ่มเพื่อเก็บไว้รับประทานในฤดูขาดแคลน จึงเป็นการสืบทอดภูมิปัญญามาจากสมัยบรรพบุรุษสู่รุ่นลูกหลานในปัจจุบัน และพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีรสชาด เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมาจนถึงปัจจุบัน กระบวนการขั้นตอนการผลิต ขั้นตอนการดองมะม่วง
1) นำมะม่วงแก้วที่แก่จัดมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปดองในถัง
2) ผสมน้ำเกลือกับน้ำหมักลงในถังให้ท่วมมะม่วง ใช้ไม้ขัดแตะ คลุมด้วยพลาสติกและปิดฝาให้แน่น และหมักมะม่วงดองไว้ ประมาณ 1 เดือน
ขั้นตอนการแช่อิ่ม
1) นำมะม่วงที่ดองแล้วมาปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นชั้น ๆ
2) นำน้ำตาลกับน้ำเปล่าและเกลือป่น ต้มให้ละลาย ทั้งไว้ให้เย็น
3) นำมะม่วงดองที่หั่นเป็นชิ้น ๆ นำไปแช่ไว้ประมาณ 2-3 วัน แล้วนำเข้าตู้เย็นจะทำให้รดชาดอร่อย จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ หวาน กรอบ รดชาดอร่อย ไม่มีสารพิษเจือปน ปริมาณการผลิต 500 ถุงต่อเดือน ราคา ถุงละ 20บาท กิโลกรัมละ 50 บาท สถานที่จำหน่าย
- 229/2 หมู่ที่ 7 บ้านโนนม่วง ต.โพนทอง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ 0-4482-3086, 0-6250-041
สนใจสั่งซื้อ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองชัยภูมิ โทรศัพท์ 0-4481-2915
วัฒนธรรม ประเพณี ตามวิถีชาวชัยภูมิ
งานฉลองอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล
ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัด และสี่แยกอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพระยาแล ช่วงเดือนมกราคมของทุกปี มีขบวนแห่สักการะอนุสาวรีย์เจ้าพ่อ ขบวนถวายช้างแด่เจ้าพ่อ และขบวนแห่ของอำเภอต่างๆ มีการประกวดผลิตผลทางการเกษตร
งานแห่เทียนเข้าพรรษา
เป็นงานที่เทศบาลเมืองชัยภูมิจัดขึ้นทุกปี ประมาณเดือนกรกฎาคม มีการประกวดเทียนพรรษาที่ประดิษฐ์อย่างสวยงาม มีงานประเพณีอื่นๆ ที่จัดเป็นประจำทุกปี
บุญเดือนหก จัดประมาณเดือนพฤษภาคม
เป็นการฉลองเมื่อเสร็จสิ้นการทำนา จัดประมาณเดือนกุมภาพันธ์
งานบุญพระเวส
งานบุญเดือนสี่ จัดประมาณเดือนมีนาคม มีการเทศน์มหาชาติ
งานประเพณีบวงสรวงเจ้าพ่อพระยาแล
จัดที่บริเวณศาลหนองปลาเฒ่า ระหว่างวันที่ 12-20 พฤษภาคม ของทุกปี ชาวบ้านจะไปเคารพสักการะดวงวิญญาณของเจ้าพ่อ และรำถวายเจ้าพ่อที่ศาลหลังเก่า
ประเพณีรำผีฟ้า
เป็นการรำบวงสรวงเป็นกลุ่มๆ ที่ภูพระ ซึ่งมีพระเจ้าองค์ตื้อ เป็นพระพุทธรูปแกะสลักหินทราย ที่ชาวบ้านเชื่อว่า มีความศักดิ์สิทธิ์มาก จะมีขึ้นในระหว่างวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 5 คือเดือนเมษายน และในวันเข้าพรรษา วันออกพรรษา
เป็นงานประเพณีของชาวอำเภอคอนสาร ในวันขึ้น 1-3 ค่ำ เดือน 5 ราวกลางเดือนมีนาคม ในงานนี้ชาวบ้านจะนิยมเล่นสะบ้า แข่งขันกันเพื่อชิงรางวัล และความสนุกสนานในบริเวณวัดเจดีย์ อำเภอคอนสาร
ประเพณีแห่กระธูป
งานโฮมบุญแห่กระธูปเทศกาลออกพรรษา วันออกพรรษา ของทุกปี ณ ทุ่งหลวงศิริ อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ
ประเพณีแห่นาคโหด แห่งเดียวในโลก
ประเพณีแห่นาคโหด ที่บ้านโนนเสลาถือเป็นประเพณีโบราณและปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาหลายร้อยปีหลายชั่วคนที่มีแห่งเดียวในโลก เพื่อที่ชาวบ้านจะได้มาร่วมกันจัดงานอุปสมบทหมู่ให้กับคนหนุ่มบุตรหลานในหมู่บ้านที่มีอายุครบ 20 ปี ถือเป็นวันขึ้น 1 ค่ำ แรม 15 ค่ำ ของเดือนหกเป็นประจำทุกปี
เพื่อให้ลูกหลานได้บวชแทนคุณบิดามารดา ด้วยความตั้งใจของผู้ประสงค์จะบวชเอง ซึ่งจะมีการเตรียมตัวมาตั้งแต่เดือนสี่ ผู้เป็นบิดาจะพาบุตรชายไปฝากไว้กับเจ้าอาวาส ใน 2 วัดของหมู่บ้านโนนเสลา คือวัดบุญถนอมพัฒนาราม(วัดนอก) และวัดตาแขก(วัดใน) เพื่อถือขัน 5 ประกอบด้วยเทียน 5 คู่ ดอกไม้ 5 คู่ ไปฝากตัวเป็นนาคปฏิบัติธรรมถือศีล 8 อยู่ที่วัด เรียนรู้บทสวดที่จะบวช และเรียนรู้พระธรรมวินัยเบื้องต้น ก่อนถึงกำหนดวันบวชของประเพณีงานบุญเดือนหก
ซึ่งถือว่าวันแห่นาคโหด จะเป็นวันสำคัญในการที่ประชาชนทุกคนในหมู่บ้านจะต้องออกมามีร่วมรวมแห่นาคเข้าวัด ที่เป็นตำนานของประเพณีแห่นาคแบบแปลกประหลาดและโหดที่สุด ที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน โดยจะใช้คนหนุ่มที่ยังไม่ได้บวชของแต่ละหมู่บ้านที่มีรุ่นพี่บวช มาช่วยกันหามแข้ไม้ไผ่ แห่นาคไปรอบหมู่บ้าน และเขย่า โยนนาค อย่างรุนแรง เพื่อความสนุกสนาน และถือเป็นการทดสอบความตั้งใจว่าผู้บวชจะมีความมุ่งมั่นอดทนจริงจังที่จะบวชแทนคุณบิดามารดา หรือไม่ ที่จะต้องประคองตัวเองคือผู้ที่จะบวชไม่ให้ตกลงมาจากแข้ไม้ไผ่หามให้ได้ เพราะถ้าใครตกลงมาถูกพื้นดินจะถือว่าขาดคุณสมบัติไม่ให้บวช ในตลอดระยะเส้นทางแห่รอบหมู่บ้านก่อนเข้าวัดทำพิธีบวช ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตรให้ได้
ซึ่งตั้งแต่ที่มีการปฏิบัติสืบทอดกันมาอย่างจริงจังมากขึ้นตั้งแต่ปี 2514 มาจนวันนี้ ถือว่ายังไม่มีผู้ใดที่ตกลงมาถูกดินและสามารถเข้าพิธีบวชได้ทุกราย ถึงแม้จะมีการได้รับบาดเจ็บถึงขั้นศรีษะแตกและแขนหลุดบ้างก็มีหลวงพ่อจำปี สุจินโน เจ้าอาวาสวัดตาแขก กล่าวว่า ประเพณีแห่นาคโหด ชาวบ้านโนนเสลาถือเป็นงานประจำปีปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน ซึ่งผู้บวชเองที่เข้าร่วมพิธีเอง ถือว่าถ้าไม่โหดก็ไม่บวช และทาง อบต.หนองตูม เองก็เข้ามาช่วยส่งเสริมก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ชาวบ้านเห็นร่วมกัน
ด้านนางกองเวิน เข็มภูเขียว วัย 63 ปี ราษฎรอาวุโสที่ชาวบ้านโนนเสลา ให้ความเคารพจำนวนมาก กล่าวว่า การแห่นาคโหด ตั้งแต่เกิดมาก็เห็นประเพณีนี้แล้ว ซึ่งปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ถือกันว่าถ้าแห่นาคไม่โหดก็จะไม่บวชกัน เป็นอย่างนี้มาตลอดทุกปีช่วงเทศกาลอุปสมบทหมู่ประจำหมู่บ้านในเดือนหก ของทุกปี
ซึ่งถือว่าคนรุ่นหนุ่มสมัยอดีต จะเป็นการปฏิบัติต่อกันรุ่นต่อรุ่นนั้นรุ่นนี้แห่กัน คนหามโหด เมื่อมาเจอคิวบวชของตนเองรุ่นน้องก็โหดต่อกันมาเรื่อยๆเป็นรุ่นๆกันไป ตามประสาคนหนุ่มในหมู่บ้านขณะที่นายสนิท ศรีบุดดา ไวยาวัจกรวัดตาแขก กล่าวว่า การจัดอุปสมบทหมู่ของหมู่บ้านจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี หรือแห่นาคโหด ถือว่าเป็นการสะท้อนถึงความอดทน กลั้นของผู้ที่จะเข้าบวชแทนคุณบิดามารดาที่ให้กำเนิดมา และชาวบ้านที่นี่อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังสืบทอดต่อไป เป็นประจำทุกปี ซึ่งอาจจะมีการมองว่ามีความรุนแรง แต่ชาวบ้านคนหนุ่มที่นี่ กลับมองว่าเพื่อการแสดงถึงความกตัญญูกตเวที ต่อบิดามารดา การได้รู้จักการอดกลั้นความตั้งใจของผู้บวชเองมากกว่า
ด้านนายธาดา รัตนาธิวัฒน์ นายก อบต.หนองตูม เปิดเผยว่า การส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามแห่นาคโหด อบต.ตั้งบประมาณไว้ส่งเสริมิย่างต่อเนื่องอย่างเต็มที่ทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีเก่าแก่แต่โบราณของคนที่นี่ และถือว่าจะเป็นจุดส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชัยภูมิ ที่มีแห่งเดียวในโลกก็ว่าได้
ซึ่งเรามีหน้าที่บำรุงพระพุทธศาสนา และการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ทั้งหมดช่วยกันเตรียมงานมาต่อเนื่องนับเดือนเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ลูกหลานคนในชุมชนได้ปฏิบัติตนในสิ่งงามก่อนเข้าวัด และการแห่นาคโหดที่ชาวบ้านจะพากันเขย่าหามนาคอย่างแรงนั้น เพื่อที่จะทำให้นาคนึกถึงความอดทน เข้มแข็ง และจะสามารถบวชสืบทอดพระพุทธศาสนาโดยผ่านอุปศักดิ์ไปด้วยดีได้
ลักษณะทางเศรษฐกิจ
อาชีพและรายได้
ประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดชัยภูมิส่วนใหญ่ประกอบอาชีพการเกษตร ได้แก่การทำนา ทำไร่ อาชีพรับจ้าง และค้าขายตามลำดับ โดยในปี 2555 ประชากรร้อยละ 98.5 มีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 46,922 บาท/คน/ปี
พืชเศรษฐกิจ
พืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ คือข้าวนาปี อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง โดยอ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง มีพื้นที่ปลูกทั้งสิ้น 483,886 ไร่ และ 447,033 ไร่
การจ้างงานและการว่างงาน
จังหวัดชัยภูมิมีประชากรที่อยู่ในกำลังแรงงาน จำนวน 702,712 คน คิดเป็นร้อยละ 57.50 ของประชากรรวม มีงานทำ 701,032 คน คิดเป็นร้อยละ 98.78 ของกำลังแรงงานทั้งหมด มีกำลังแรงงานที่ว่างงาน 815 คน คิดเป็นร้อยละ 0.40 แรงงานส่วนใหญ่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก ประมาณร้อยละ 63.4 และประกอบอาชีพนอกภาคเกษตรกรรมร้อยละ 36.6 สถานประกอบการในจังหวัดส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็กและมีลักษณะเป็นระบบครอบครัวมากกว่า นอกจากนี้ยังมีการจ้างงานอย่างอื่นเช่น ผู้ไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น
การอุตสาหกรรม
จังหวัดชัยภูมิมีจำนวนโรงงานทั้งสิ้น 653 โรง มีเงินลงทุนรวม 19,281,791,896 บาท จำนวนคนงาน 22,660 คน สำหรับการส่งเสริมการลงทุนจังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดที่ฐานการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลักการประกอบอาชีพอุตสาหกรรมจะต้องใช้เงินลงทุนสูงและจะต้องมีประสบการณ์ในการประกอบอุตสาหกรรม การขาดแคลนวัตถุดิบและช่างฝีมือแรงงานเฉพาะด้านเช่นด้านสิ่งทอและด้านการออกแบบ เป็นต้น
ประวัติผู้จัดทำ
นางสาว ชไมพร งามตรง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 / 1
โรงเรียนโนนกอกวิทยา